เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นที่ระลึกสร้างพระตำหนัก ร.9 ปากพนัง (สร้างบ้านให้พ่อ) ปี 2541 ชุดกรรมการ พิมพ์ใหญ่
ประกอบด้วย เหรียญหลวงปู่ทวดพิมพ์ใหญ่ เนื้อทองคำ หนัก 18.1 กรัม เนื้อเงิน เนื้อนวะโลหะ เนื้อทองเหลือง และเนื้อทองแดง หมายเลข ๒๒ ทุกองค์ และโค๊ะ นะ ทุกองค์ โดยแต่ละองค์อยู่ต่างตำแหน่งกัน พิธีใหญ่ จัดสร้างน้อย
ขนาดเหรียญ สูง 3 x กว้าง 2.5 ซม.
ประวัติและวัตถุประสงค์ของการจัดสร้าง (ย่อๆ จากหนังสือรวมประวัติอาจารย์นอง โดยชัยนฤทธิ์ พันธุ์ทอง) มีดังนี้ครับ
หลวงปู่ทวด รุ่นที่ระลึกพระตำหนัก ร.9 ปากพนัง มีวัตถุประสงค์เพื่อนำรายได้ไปสมทบทุนการสร้างพระตำหนักประทับแรมเฉลิมพระเกียรติ ณ ลุ่มน้ำปากพนัง น้อมเกล้าถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เพื่อเป็นที่ประทับในการเสด็จแปรพระราชฐานทรงงานติดตามดูแลโครงการพระราชดำริฯ ในลุ่มน้ำปากพนังและภาคใต้ตอนกลาง การจัดสร้างวัตถุมงคลในครั้งนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่9 ทรงพระราชทานบรมราชานุญาตให้ใช้พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก และทรงพระราชทานไฟพระฤกษ์จุดเทียนชัยฯ ใน วันเสารที่ 21 พฤศจิกายน 2541 เวลา 15.00 น. มีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) วัดสระเกศ เป็นประธานพิธีฝ่ายสงฆ์และนายสวัสดิ์ โชติพานิช เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
โดยที่เกิดเหตุการณ์มหัศจรรย์ต่อหน้าประชาชนที่มาร่วมในพิธีขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน 2541 คณะกรรมการได้อัญเชิญไฟพระฤกษ์มายังวัดทรายขาว ให้ท่านอาจารย์นองจุดเทียนชัยเพื่อนำไปประกอบพิธี ณ อุโบสถวัดช้างให้ ซึ่ง ขณะนั้นท่านยังอาพาธอยู่ ขณะที่ท่านบริกรรมคาถาอยู่สักครู่หนึ่ง ปรากฏว่าร่างของท่านสั่นเทิ้ม มือที่ถือเทียนสั่นอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นอาการที่หลวงพ่อทวดประทับทรง ลูกศิษย์ต้องรีบเข้าไปประคองมือจนจุดเทียนชัยสำเร็จ จากนั้นท่านก้มลงกราบกับพื้น 3 ครั้งและเปล่งเสียงอยู่ในลำคอเสมือนบอกได้ว่า จุดเทียนชัยให้แล้ว ต่อมาท่านจึงยืดตัวขึ้นยกมือพนมศรีษะเหมือนมีบางสิ่งลุกขึ้นจากร่าง จนกระทั่งอยู่ในสภาวะปกติ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่างสร้างความตกตะลึงให้กับผู้ที่อยู่ในพิธีเป็นอย่างมาก
ต่อมาในวันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2541 จัดให้พิธีพุทธาภิเษกขึ้น ณ อุโบสถวัดช้างให้ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ (รัชกาลที่ 10) พระราชทานไฟพระฤกษ์จุดเทียนชัยในพิธีพุทธาภิเษก มีคณาจารย์ ทัง 14 จังหวัดภาคใต้นั่งอธิษฐานจิต จนกระทั่งดับเทียนชัย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก หนังสืออาจารย์นอง ธมมภูโต โดย ชัยนฤทธิ์ เพชรพันธุ์ทอง
พระตำหนักประทับแรมปากพนัง ต.หูล่อง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ต.หูล่อง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช 80140
รายละเอียด: พระตำหนักประทับแรม ปากพนัง หรือ พระตำหนักประทับแรมเฉลิมพระเกียรติอำเภอปากพนัง ตั้งอยู่ที่ ตำบลหูล่อง อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพระตำหนักแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศ ที่ก่อสร้างขึ้นจากความร่วมแรงร่วมใจของประชาชนชาวไทย เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นที่พระองค์ท่านทรงเมตตาต่อเหล่าพสกนิกรชาวปากพนังเป็นที่ยิ่ง
ลักษณะเด่นกลุ่มอาคารในพระตำหนักฯ ประกอบไปด้วย
ที่จอดรถพระประเทียบ
ศาลารอรับเสด็จ1
สาลารับเสด็จ2
อาคารพระราชทานเลี้ยง
พระตำหนักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
อาคารเรือนราชองครักษ์ และแพทย์หลวง
อาคารท้องพระโรง
พระตำหนักสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ
อาคารเรือนพักคุณข้าหลวง
พระตำหนักฯ
ศาลากลางน้ำ
อาคารจอดรถพระที่นั่ง1
อาคารจอดรถพระที่นั่ง2
นารายณ์ทรงสุบรรณ
ลิฟต์โดยสารส่วนพระองค์
ประวัติ : พระตำหนักประทับแรม ถูกสร้างขึ้นในโครงการสร้างบ้านให้พ่อซึ่งดำเนินการโดยความร่วมมือของชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชและชาวไทยทั่วประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นพระตำหนักทรงงานถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในคราวเสด็จอยู่ และทรงงานในจังหวัดนครศรีธรรมราช ภายในพระตำหนักประกอบไปด้วยกลุ่มอาคารพระตำหนักฯ มีลักษณะสถาปัตยกรรมภาคใต้ ตั้งอยู่ในพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ในอดีต อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราชและในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง “พรุควนเคร็ง” ประสบกับปัญหาเดือดร้อนจากความเสื่อมโทรมของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมอย่างหนัก ทั้งอุทกภัยการขาดแคลนน้ำจืด ปัญหาดินเปรี้ยว ปัญหาน้ำเค็มรุกล้ำพื้นที่เกษตร ผลผลิตตกต่ำ ซึ่งก่อให้เกิดความทุกข์ยากแร้นแค้น ส่งผลถึงการอพยพแรงงานและการโยกย้ายถิ่นฐาน จากดินแดนซึ่งเคยเป็น “อู่ข้าวอู่น้ำ” มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งพื้นที่นาและในแม่น้ำ กลับกลายเป็นพื้นที่ที่มีความยากจนมากที่สุดของประเทศ
การเดินทาง : จากอำเภอเมืองไปยังอำเภอปากพนังระยะทางประมาณ 35 กม. ใช้เส้นทาง 4013 เลี้ยวขวาบริเวณสามแยก ไปยังอำเภอปากพนังฝั่งตะวันออก ถึงสี่แยกเลี้ยวขวาอีกครั้ง เดินทางต่ออีกประมาณ 2กม. ถึงหัวงาน โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มแม่น้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และหากจะเดินทางไปยังอำเภอปากพนังฝั่งตะวันออก ใช้เส้นทาง 4013 จากอำเภอเมือง เลี้ยวขวาบริเวณสามแยก ผ่านสี่แยก และข้ามสะพานข้ามแม่น้ำปากพนัง ไปยังอำเภอปากพนังฝั่งตะวันออก