อาณาจักรเหรียญกษาปณ์ทองคำ

เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นพิพิธภัณฑ์ คูณ 86 ปี 52 เนื้อทองคำ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา พิธีใหญ่ นิยมมากครับ

SOLD OUT
฿0.00
เหรียญเนื้อทองคำทุกเหรียญ หลวงพ่อคูณจะจาร ลงขระทุกเหรียญด้วยตัวเอง โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นองค์ประธานในพิธีพุทธาภิเษก
  • หมวดหมู่ : หลวงพ่อคูณ
  • รหัสสินค้า : 000818

รายละเอียดสินค้า เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นพิพิธภัณฑ์ คูณ 86 ปี 52 เนื้อทองคำ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา พิธีใหญ่ นิยมมากครับ

  เหรียญหลวงพ่อคูณ เหรียญทองคำสี่เหลี่ยมนั่งสมาธิเต็มองค์ หลังยันต์ รุ่นฉลองพิพิธภัณฑ์ คูณ 86 ปี 52 น้ำหนักรวมกรอบ 47.4 กรัม โดยมีขนาดกว้าง 3 ซม. สูง รวมห่วง 5.2 ซม.


  เหรียญพิพิธภัณฑ์ หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ปี 2552 มีจำนวนการสร้างดังนี้
1. เหรียญเนื้อทองคำ 99.99% ฝังเพชร น้ำหนักทอง ประมาณ 3 บาท สร้าง จำนวน 19 องค์......บูชาออกจากวัด องค์ละ 1,000,000 บาท ( ตอกโค๊ดตอกหมายเลขทุกองค์ )
2. เหรียญเนื้อทองคำ 99.99% น้ำหนักทอง ประมาณ 3 บาท สร้าง จำนวน 186 องค์......บูชาออกจากวัด องค์ละ 100,000 บาท ( ตอกโค๊ดตอกหมายเลขทุกองค์ )
3. เหรียญเนื้อเงิน สร้าง จำนวน 999 องค์......บูชาออกจากวัด องค์ละ 2,000 บาท ( ตอกโค๊ดตอกหมายเลขทุกองค์ )
4. เหรียญเนื้อนวโลหะ สร้าง จำนวน 1,999 องค์......บูชาออกจากวัด องค์ละ 1,000 บาท ( ตอกโค๊ดตอกหมายเลขทุกองค์ )
5. พระผงพิมพ์สี่เหลี่ยมรุ่นพิพิธภัณฑ์ สร้าง จำนวน 1000,000 องค์ ( ส่วนพระผงจะมีแจกในวันงานเปิดพิพิธภัณฑ์ )

- พระรุ่นนี้เมื่อปั้มเสร็จได้ทำลายบล็อคแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยบล็อคที่ทำลายนั้นได้เก็บอยู่ในพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ในวัดบ้านไร่

  ประวัติการสร้างเหรียญพิพิธภัณฑ์

  วัตถุมงคลหลวงพ่อคูณ รุ่น “พิพิธภัณฑ์” มีวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างเพื่อหาทุนทรัพย์ในการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ เพื่อใช้เป็นที่จัดแสดงอัตชีวประวัติเรื่องราวต่างๆ วัสดุสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆของหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ และที่สำคัญยิ่งคือเป็นหอประกาศเกียรติคุณของหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ พระอริยสงฆ์แห่งวัดบ้านไร่

  พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเป็นแหล่งศึกษาเรื่องราวอัตชีวประวัติของหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ แก่อนุชนคนรุ่นหลังสืบต่อไปในภายภาคหน้า ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้อ้างอิงประกอบวิชาการได้ อีกทั้งจะเป็นสถานที่เก็บรักษามรดกทางพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีตามวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้านบ้านไร่และด่านขุนทด

  วัตถุมงคลหลวงพ่อคูณ รุ่น “พิพิธภัณฑ์” จัดสร้างด้วยกันทั้งหมด ๓พิมพ์ คือ

๑. เหรียญทองคำสี่เหลี่ยมนั่งสมาธิเต็มองค์ มีสองแบบ คือเหรียญทองคำพิเศษ หลังพระยอดธง จำนวนสร้าง ๑๙ เหรียญ และเหรียญทองคำกรรมการหลังยันต์ จำนวนสร้าง ๑๘๖ เหรียญ

๒. เหรียญรูปไข่ครึ่งองค์หลังยันต์ดวง สร้างด้วยกัน ๒เนื้อ คือเนื้อเงินจำนวนสร้าง ๙๙๙ เหรียญ และเนื้อนวโลหะ จำนวนสร้าง ๑,๙๙๙ เหรียญ

๓. พระเนื้อผงรูปเหมือนนั่งยองหลังยันต์ดวง มีสองแบบ คือแบบฝังตะกรุดทองคำ พระทุกองค์สร้างและกดพิมพ์ในวัดบ้านไร่ หรือบางท่านเรียกว่า “นำฤกษ์” แจกเฉพาะกรรมการ จำนวนสร้างไม่ถึง ๒๐๐องค์ และแบบไม่ฝังตะกรุด จำนวนสร้าง ๑,๐๐๐,๐๐๐องค์ ทุกองค์ทำที่โรงงาน

  โดยที่วัตถุมงคลรายการที่๑และ๒ ได้ตอกโค้ตและหมายเลขกำกับทุกองค์ สำหรับเหรียญรูปไข่ครึ่งองค์หลังยันต์ ถือได้ว่าเป็นรุ่นที่มีการออกแบบได้อย่างสวยงามและมีจำนวนในการจัดสร้างที่น้อยมาก พระทุกองค์ได้มีการตอกหมายเลขและโค๊ตกำกับ

  พระรุ่นนี้ชาวต่างชาตินิยมเป็นอย่างมาก พระเหลืออยู่ในเมืองไทยไม่มาก อีกหน่อยจะไม่มีให้เห็น เป็นของดีที่ไม่ควรมองข้าม พระของหลวงพ่อคูณมีนับพันรุ่น มีเพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้นที่มีประวัติชัดเจนและเจตนาที่บริสุทธิ์ พระรุ่นนี้เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่น่าจับตามอง สำหรับพระเนื้อผงรูปเหมือนนั่งยองหลังยันต์ดวงนั้น มวลสารที่นำมาจัดสร้างนั้น ล้วนเป็นมวลสารสำคัญและศักดิ์สิทธิ์ ที่สำคัญมีผงเกษรที่หลวงพ่อคูณได้รับพระราชทานจากในหลวง และผงพุทธคุณ (กรรมการบางท่านบอกว่าเป็นผงจิตลดา ที่ท่าน ส.ส ไพโรจน์ ได้มอบให้เป็นกรณีพิเศษ) อีกทั้งยังมี เกศา ข้าวก้นบาตร จีวร ข้าวตอกดอกไม้บูชาพระประธานของหลวงพ่อคูณ ผงวิเศษสายวัดระฆังโฆสิตารามของหลวงพ่อคูณ ผงวิเศษสายวัดป่าทางภาคอีสาน และผงวิเศษทั่วประเทศ ผงธูปบูชาสถานที่สำคัญและมีความศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศ และทองคำเปลวที่ปิดที่ศาลหลักเมืองทุกจังหวัดทั่วประเทศ พระเนื้อผงนี้โดยเฉพาะแบบฝังตะกรุดทองคำ หายากมากๆครับ เป็นของดีที่มีคนรู้ประวัติน้อยมาก ส่วนใหญ่พระตกอยู่กับกรรมการวัดบ้านไร่ พระทุกองค์ฝังตะกรุดทองคำแท้และมีเส้นเกศาของหลวงพ่อคูณ ในด้านเกศาของหลวงพ่อคูณนั้นปัจจุบันหาได้ยากยิ่ง ถ้าไม่เป็นกรรมการวัดหรือไม่สนิทกันจริงๆ แล้วแทบหาไม่ได้เลย ผมคิดว่าถ้ามีการเผยแผร่ประวัติของพระรุ่นนี้แล้ว อีกไม่นานราคาไปไกลแน่นอนครับ

  วัตถุมงคลหลวงพ่อคูณ รุ่น “พิพิธภัณฑ์” ได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกในวันที่ ๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ณ พระอุโบสถวัดบ้านไร่ โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นองค์ประธานในพิธีพุทธาภิเษก พระพรหมวชิรญาณ วัดยานนาวา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์และจุดเทียนชัย ในการพิธีพุทธาภิเษกครั้งนี้มีพระเกจิคณาจารย์ชื่อดังร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิตจำนวนมาก อาทิเช่น หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ, พระครูสุวรรณสีลาธิคุณ หรือ หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน จ.พระนครศรีอยุธยา, พระอาจารย์ติ๋ว วัดมณีชลขันธุ์ จ.ลพบุรี, พระอาจารย์ชำนาญ วัดบางกุฎีทอง จ.ปทุมธานี, หลวงพ่ออิน วัดหนองบัว จ.นครราชสีมา, หลวงพ่อจอย วัดโนนไทย จ.นครราชสีมา, หลวงพ่ออวด วัดศรีษะเกษ จ.สกลนคร, หลวงพ่อใหญ่ วัดสุทธจินดา จ.นครราชสีมา หลวงพ่อสมชัย วัดตูม จ.พระนครศรีอยุธยา ประชาชนส่วนใหญ่มักเสาะแสวงหาวัตถุมงคลของหลวงพ่อคูณไว้ติดตัวจนลืมนึกถึงคติธรรมคำสอนของหลวงพ่อคูณ แม้หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ จะไม่ใช่พระนักเทศน์ แต่จากคำพูดตรงๆง่ายๆ ของหลวงพ่อคูณก็ได้แทรกหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าอยู่เสมอ เป็นการเตือนสติในการประพฤติปฏิบัติ เพื่อพัฒนาจิตใจของพุทธศาสนิกชนให้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ผู้ที่ปฏิบัติตามคำสอนของหลวงพ่อจะเกิดประโยชน์สุขในการดำรงชีวิต ซึ่งจะเป็นผลต่อความสงบเรียบร้อยในสังคม

  ท้ายนี้ผมขอนำคติธรรมคำสอนของหลวงพ่อคูณมาปิดท้ายครับ “เมื่อกูตายแล้ว กูกลัวว่าศพของกูนี่แหละจะเป็นภาระยุ่งยากของลูกหลาน จะเกิดความสับสนวุ่นวายเพราะคนที่มาหากู ฝากตัวเป็นศิษย์มีมากมายหลายประเภท มีทั้งดีทั้งเลว ละโมภ โลภมาก มาแสวงหาประโยชน์ต่างๆนานา โดยไม่กลัวบาปกรรม... อ้างตัวว่าเป็นหลานเป็นพี่เป็นน้อง... แต่ก็เปล่าด๊อก ถ้าเป็นพี่เป็นน้องของกูอย่างปากว่าจริงๆ ก็จะไม่มาสร้างความวุ่นวายยุ่งเหยิงให้เกิดขึ้นแน่ กูจึงขอให้โรงพยาบาลมารับเอาศพไปภายใน ๒๔ ชั่วโมง และหลังจากสิ้นสุดการค้นคว้าแล้ว ก็ให้จัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพเช่นเดียวกับศพของอาจารย์ใหญ่ นักศึกษาแพทย์ประจำที่ร่วมกับท่านอื่นๆ กูขออย่างเดียว ให้ทุกคนเชื่อว่า บุญมีจริง บาปก็มีจริง ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว นี่คือหลักธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดังพุทธภาษิตที่ว่า กมฺมุนา วตฺตตี โลโก แปลว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม จะเห็นได้จากการที่บางคนเกิดมาลำบากยากเข็ญ ง่อยเปลี้ย เสียขาพิกลพิการ ร่างกายอัปลักษณ์น่าเกลียดน่ากลัว แต่บางคนเกิดมาร่างกายสมบูรณ์สวยงามน่าชม...ที่เป็นเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะผลของกรรมที่เรียกว่าการกระทำหรอก หรือใครเล่าจะอยากเกิดมาเป็นเช่นนั้น แต่มันฝืนกรรมไม่ได้ หลวงพ่อจึงเชื่อว่า บุญ บาป มีจริง และทำดีต้องได้ดี ทำชั่วต้องได้ชั่ว”

ที่มา http://www.ruampra.com/Amulet/Amulet2.aspx?userAmulet=8166

ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?newsid=9520000116496