รูปหล่อหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ รุ่นสร้างพระตำหนักฯปากพนัง (สร้างบ้านให้พ่อ) ปี2541 ชุดกรรมการใหญ่

รูปหล่อหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ รุ่นสร้างพระตำหนักฯปากพนัง (สร้างบ้านให้พ่อ) ปี2541 ชุดกรรมการใหญ่ หมายเลขประจำชุด 71

ครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จังหวัดปัตตานี ที่ระลึกสร้างพระตำหนักฯ ร.๙ ปากพนัง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๙ ทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง และไฟพระฤกษ์ ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก วันเสาร์ที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๔๑ และ พล.อ.อ.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร (รัชกาลที่ ๑๐)พระราชทานไฟพระฤกษ์ในการจุดเทียนชัย ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดช้างให้ จังหวัดปัตตานี วันเสาร์ที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๑

    รูปหล่อหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่นสร้างพระตำหนักฯ ร.๙ ปากพนัง นั่งบนฐานบัวคว่ำ บัวหงายด้านหลังจารึกพระคาถา “นะโม โพธิสัตโต”  ชุดกรรมการ พิมพ์ใหญ่ ขนาดองค์พระ กว้าง 1.7 ซม. สูง 2.3 ซม. ลึก 1.2 ซม. องค์พระทุกองค์อุดผงพุทธคุณ พร้อมมวลสารศักดิ์สิทธิ์  โดยมีหมายเลขประจำองค์พระ ๗๑ มีทั้งหมด 5 เนื้อโลหะ ประกอบด้วย

1.เนื้อทองคำ หนัก 21.89 กรัม

2.เนื้อเงิน หนัก 12.85 กรัม

3.เนื้อนวโลหะ หนัก 14.68 กรัม

4.เนื้อบรอนซ์  หนัก 13.55 กรัม

5.เนื้อทองแดงรมดำ หนัก 13.75 กรัม

     หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ เป็นพระเถระศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่ประจักของชาวใต้ ตลอดจนชาวไทยทั่วประเทศมาช้านาน การสร้างพระหลวงพ่อทวดขึ้นในครั้งนี้ ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่เป็นมงคลสูงสุดของชาวใต้ทั้งมวล เพื่อเป็นหลักชัยในการร่วมใจร่วมกับประชาชนทั่วประเทศ การจัดสร้างพระหลวงพ่อทวด รุ่นสร้างพระตำหนักฯ  ร.๙ปากพนัง เพื่อตอบแทนสำหรับสาธุชนที่มีจิตศรัทธาในการร่วมทำบุญสมทบทุนสร้างพระตำหนักประทับแรมเฉลิมพระเกียรติ ณ ลุ่มน้ำปากพนัง น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุยเดช รัชกาลที่ 9 เพื่อเป็นที่ประทับในการเสด็จแปรพระราชฐานทรงงานติดตามดูแลโครงการพระราชดำริฯ ในลุ่มน้ำปากพนังและภาคใต้ตอนกลาง ซึ่งไม่ใช้งบประมาณจากราชการ แต่เป็นการร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวของพสกนิกรทั่วประเทศ

พิธีพุทธาภิเษก 2 พิธี

พิธีที่ 1

     เกิดเหตุการณ์มหัศจรรย์ต่อหน้าประชาชนที่มาร่วมในพิธีขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน 2541 คณะกรรมการได้อัญเชิญไฟพระฤกษ์มายังวัดทรายขาว ให้ท่านอาจารย์นอง จุดเทียนชัยเพื่อนำไปประกอบพิธี ณ อุโบสถ วัดช้างให้ต่อไป ครั้นเวลาประมาณ 17.20 น. พระอาจารย์นอง เริ่มประกอบพิธีโดยใช้เทียนชนวนพระราชทานต่อไฟพระฤกษ์ จากนั้น ในขณะที่ท่านบริกรรมคาถาอยู่สักครู่หนึ่ง ถึงเวลาประมาณ 17.39น. ปรากฏว่า มือที่ถือเทียนสั่นอย่างรุนแรง ร่างกายงองุ้มจนเกือบติดพื้น ซึ่งเป็นอาการที่หลวงพ่อทวดประทับทรง ลูกศิษย์ต้องรีบเข้าไปประคองมือจนจุดเทียนชัยสำเร็จ จากนั้นท่านก้มลงกราบกับพื้น 3 ครั้งและเปล่งเสียงอยู่ในลำคอเสมือนบอกได้ว่า จุดเทียนชัยให้แล้ว ต่อมาท่านจึงยืดตัวขึ้นยกมือพนมเหนือศีรษะ เหมือนมีบางสิ่งลุกขึ้นจากร่าง จนกระทั่งอยู่ในสภาวะปกติ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่างสร้างความตกตะลึงให้กับผู้ที่อยู่ในพิธีเป็นอย่างมาก

     ต่อมาในวันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2541 จัดให้พิธีพุทธาภิเษกขึ้น ณ อุโบสถวัดช้างให้ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ (รัชกาลที่ ๑๐) พระราชทานไฟพระฤกษ์จุดเทียนชัยในพิธีพุทธาภิเษก และพระราชทานผ้าไตร ถวายพระราชาคณะ จำนวน 11 ไตร  มีคณาจารย์ ทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 145 รูป นั่งอธิษฐานจิต ตั้งแต่เวลา 15.09 น. ไปจนเสร็จสิ้นเวลา 01.39 น.ของวันรุ่งขึ้น จนกระทั่งดับเทียนชัย

พิธีที่ 2

     การจัดสร้างวัตถุมงคลในครั้งนี้ไดรับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงพระราชทานบรมราชานุญาตให้ใช้พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมบรมมหาราชวัง ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก และทรงพระราชทานไฟพระฤกษ์จุดเทียนชัยฯ ใน วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2541 เวลา 15.00 น. มีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) วัดสระเกศ ผู้แทนพระองค์สมเด็จพระญาณสังวรฯ สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานพิธีฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยสมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ ตลอดจนพระเถราจารย์ผู้ทรงคุณ 29 รูป และนายสวัสดิ์ โชติพานิช อดีตประธานศาลฎีกา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีมหาพุทธาภิเษก พร้อมด้วยคณะกรรมการ โดยมีสมเด็จพระมหาธีราจารย์ (นิยม) วัดชนะสงคราม เป็นองค์ดับเทียนชัย และประพรมน้ำพระพุทธมนต์หลังจากเสร็จพิธี

    รูปหล่อหลวงปู่ทวด รุ่นสร้างพระตำหนักฯร.9 ปากพนัง (สร้างบ้านให้พ่อ) สร้างเมื่อปี 2541 วัดช้างให้ อาจารย์นอง วัดทรายขาว ปัตตานี ปลุกเสก พิธีพุทธาภิเษกยิ่งใหญ่ 2 พิธี ที่วัดช้างให้และวัดพระแก้ว  ผสมแผ่นยันต์ชนวนเก่า โดยใช้ทรงพิมพ์หลวงปู่ทวดรูปหล่อลอยองค์บัวรอบที่เป็นที่นิยม พระทำออกมาได้สวยงามมาก น่าบูชาเก็บไว้มาก ต้องรีบเก็บครับ พระพิมพ์นี้ยังมีคนตามเก็บกันอยู่เรื่อยๆ ขณะนี้เริ่มหาองด์ที่สวยแบบนี้ยากแล้วครับ

ขอบคุณข้อมูล : http://jramulet.tarad.com/product.detail_451523_th_3906698