ธนาคารแห่งประเทศไทยขอความร่วมมือให้กรมธนารักษ์จัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบ 50 ปี ธนาคารแห่งประเทศไทย ในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2535 เนื้อทองคำขัดเงา พิมพ์ใหญ่ หนัก 15 กรัม ผลิตเพียง 1,179 เหรียญ หายากมากๆครับ
ลักษณะเหรียญ เหรียญรูปกลมแบน วงขอบนอกเรียบ
ลวดลายด้านหน้า พระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ วงขอบเหรียญด้านซ้ายมีอักษรพระปรมาภิไธยย่อ "ภ.ป.ร." ภายใต้พระมหามงกุฎ ด้านขวามีอักษรพระปรมาภิไธยย่อ "ส.ก."
ลวดลายด้านหลัง รูปพระสยามเทวาธิราชประทับบนตราแผ่นดิน พระหัตถ์เบื้องขวากุมถุงเงิน พระหัตถ์เบื้องซ้ายทรงพระคฑา รอบวงขอบเหรียญด้านบนมีข้อความว่า "ธนาคารแห่งประเทศไทย" "๑๐ ธันวาคม ๒๕๓๕" "๕๐ปี"
ธนาคารแห่งประเทศไทยตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2485 ดำเนินการเป็นธนาคารกลางของประเทศไทย สังกัดกระทรวงการคลัง แต่เดิมใช้ชื่อว่า "สำนักงานธนาคารชาติไทย" มีหน้าที่ในการผลิตธนบัตรออกให้ใช้และรักษาเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ
เมื่อประเทศไทยเปิดประตูการค้ากับประเทศต่าง ๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการเปิดรับประเทศทางตะวันตกในช่วงสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มีผลทำให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างรวดเร็ว และมีความต้องการบริการทางด้านการเงินเพิ่มมากขึ้นโดยลำดับ แต่สถาบันการเงินที่เกิดขึ้นในช่วงนั้นเป็นของคนต่างชาติเกือบทั้งนั้น มีกิจการทางการเงินที่คนไทยดำเนินการอยู่บ้าง แต่มีคนต่างชาติเป็นหุ่นส่วนอยู่ด้วยแทบทั้งสิ้น ผลประโยชน์จึงตกเป็นของคนต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ต่อมาในปี พ.ศ. 2482 เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจไปทั่วโลกรวมทั้งสถาบันการเงินในประเทศไทยด้วย จากภาวะดังกล่าวมีส่วนผลักดันให้กระทรวงการคลังจัดตั้งสำนักงานธนาคารแห่งชาติไทยขึ้น เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2483 ทั้งนี้เพื่อเตรียมขั้นตอนในการจัดตั้งธนาคารกลางต่อไปในอนาคต และเมื่อเกิดสงครามมหาเอเชียบูรพา โดยญี่ปุ่นได้ยกทัพเข้าสู่ประเทศไทยเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2484 เพื่อใช้เป็นฐานทัพสำหรับต่อสู้กับประเทศทางตะวันตก รัฐบาลเกรงว่าญี่ปุ่นจะเข้าแทรกแซงกิจการด้านการเงิน จึงได้เร่งดำเนินการเปลี่ยนสถานะสำนักงานฯ เป็นธนาคารแห่งประเทศไทย ในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2485 เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินของประเทศให้พ้นจากการคุกคามของญี่ปุ่น
ปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศไทยดำเนินกิจการในฐานะธนาคารกลาง มีหน้าที่รับผิดชอบในการออกธนบัตร และดำเนินการต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนแนวนโยบายด้านการเงินและเศษฐกิจของรัฐ ประกอบกิจการธนาคาร โดยการให้บริการแก่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและสถาบันการเงินต่าง ๆ พร้อมทั้งกำกับดูแลสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อให้มีความมั่นคงและเอื้ออำนวยต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งเป็นตัวแทนทางการเงินและที่ปรึกษาทางการเงินแก่รัฐบาลด้วย